ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2544 และแนวโน้มปี 2545

 

ประเด็นสำคัญ

 

Ø   ปี 2544 ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านราย

Ø   ADVANC ยังคงครองอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาด 66% มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านราย ขยายตัว 143% YoY

Ø   TAC มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านราย ขยายตัว 92% YoY

Ø   ปี 2545 คาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 5.5 ล้านราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่ม Prepaid

Ø   การแข่งขันที่รุนแรงและเพิ่มปริมาณลูกค้า Prepaid อย่างรวดเร็วจะทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ของผู้ประกอบการทุกรายลดลง

Ø   แนะนำ – ขาย ADVANC

 

ความเห็นและคำแนะนำ: ในปี 2544 ภาวะการแข่งขันของโทรศัพท์เคลื่อนที่ทวีความรุนแรงมาตลอดปี จนกระทั่งสิ้นสุดปี 2544 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหม่(Net Addition)เพิ่มขึ้นถึง 4.3 ล้านราย ทำให้มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งสิ้น 7.9 ล้านราย ขยายตัว 120% YoY หรือคิดเป็นอัตราการเข้าถึงประชากร (Penetration Rate) 16% โดยผู้ประกอบการที่มีจำนวนของผู้ขอใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ADVANC มีจำนวนรวม 2.8 ล้านราย ทำให้ ADVANC (รวม DPC) มีจำนวนผู้ใช้บริการในเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 5.2 ล้านราย คิดเป็นอัตราการขยายตัว 143% YoY ในขณะที่ TAC มีจำนวนผู้ขอใช้บริการรายใหม่ 1.3 ล้านราย และมีผู้ใช้บริการรวมกว่า 2.7 ล้านราย หรือมีอัตราการเติบโต 92% YoY  

สำหรับในปี 2545 คาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยังคงมีลักษณะเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจำนวนผู้ขอใช้บริการรายใหม่ของโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5.5 ล้านราย รวมเป็น 8.8 ล้านราย ในปี 2545 ปัจจัยที่สนับสนุนที่ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค คือ ความสะดวกในการใช้ การขยายเครือข่าย (Network Coverage) ของผู้ประกอบการทำให้คุณภาพของการสื่อสารปรับตัวดีขึ้น คุณลักษณะของโทรศัพท์มือถือที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเครื่องลูกข่ายในขณะที่ราคาขายต่อเครื่องปรับลดลงรวมถึงการจัดโปรโมชั่นที่ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ปัจจุบัน ราคาข่ายเครื่องลูกข่ายที่ปรับตัวลดลง โดยมีราคาต่ำสุดเพียง 2,900 บาท เทียบกับ 7,000 บาท ในอดีต  นอกจากนี้การยกเลิกค่ามัดจำเลขหมาย 3,000 บาท การยกเลิกค่าเปิดใช้บริการจำนวน 1,000 บาท รวมถึงการเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ ที่ผู้ให้บริการยกเลิกค่าบริการรายเดือน 500 บาท และเสนอโปรโมชั่นแบบเหมาจ่าย ทำให้อัตราค่าใช้บริการต่อนาทีของผู้ใช้บริการปรับตัวลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการสามารถประมาณการรายได้จากการให้บริการรายเดือนที่แน่นอน แต่ก็มีการแข่งขันยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้นทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากมีคู่แข่งรายใหม่อย่าง TA Orange ในขณะที่ DTAC ซึ่งเป็นคู่แข่งรายเดิมยังคงดำเนินการตลาดในแนวรุกที่สร้างแรงกดดันทั้งราคาเครื่องลูกข่ายและโปรโมชั่นที่จูงใจลูกค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ADVANC จะยังคงสามารถครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์มือถือไว้ได้ถึงแม้ว่าสัดส่วนจะปรับตัวลดลงก็ตาม