ปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในประเทศ สิงหาคม 2544
|
|
|
|
|
|
ปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในประเทศสำหรับเดือนสิงหาคม
2544 เท่ากับ 1.52 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่งผลให้ปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในช่วง 8 เดือนของปี 2544 มียอดรวม 12.69 ล้านตัน
เพิ่มขึ้น 2.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน CNS คาดว่าปริมาณการขายซีเมนต์ภายในประเทศในช่วง 4
เดือนสุดท้ายจะอยู่ที่ระดับ 5.6 ล้านตัน และปรับประมาณการปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในประเทศสำหรับปี 2544 เป็น 18.29
ล้านตัน
( ลดลง 1.5%
จากเดิมที่ 18.56
ล้านตัน) แต่เพิ่มขึ้น 1.5% YoY จากปี 2543
ปริมาณการขายในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีอัตราที่ใกล้เคียงกับในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ปริมาณการขายจะอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากภาวะน้ำท่วมและฝนตกหนัก สาเหตุที่ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศยังคงขยายตัวในระดับต่ำเนื่องจากการลงทุนของภาครัฐบาลในโครงการขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่(Mega-Infrastructure Projects) ชะลอตัว เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจำเป็นจะต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก
โดยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชนมากกว่าที่จะลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
ถึงแม้ว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะลดลงจากการชะลอการก่อสร้างโครงการขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่
ซึ่งเหลือเพียงโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเพียงโครงการเดียว ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้ปูนซีเมนต์ในโครงการนี้ปีละประมาณ
5 แสนตัน คาดว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในส่วนของลูกค้ารายย่อยและในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
สำหรับการก่อวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกาจะกระทบกับปริมาณการขายภายในประเทศค่อนข้างต่ำ
แต่อาจจะส่งผลกระทบกับการส่งออก
เนื่องจากไทยส่งออกปูนซีเมนต์ไปอเมริกามากเป็นอันดับหนึ่ง
โดยจะมีผลกระทบต่อปริมาณการขายซีเมนต์ส่งออกในช่วงปีหน้า
ดังนั้น
คาดว่าปริมาณการขายปูนซีเมนต์รวมในปี 2544 จะอยู่ที่ระดับ 33.29 ล้านตัน เป็นสัดส่วนของการส่งออก 15 ล้านตัน หรือคิดเป็น
45% ของปริมาณการขายทั้งหมด ส่วนปี 2545 ปริมาณการขายคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.79
ล้านตัน ลดลง 1.5% YoY โดยคิดเป็นปริมาณการขายในประเทศ 18.54
ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.4% YoY และเป็นการส่งออก 14.25 ล้านตัน ลดลง 5% YoY สำหรับปริมาณการขายที่อยู่ในระดับต่ำทำให้ผู้ประกอบการโดยรวมยังคงใช้อัตรากำลังการผลิตในระดับต่ำเพียง
64.5% และ 63.5% สำหรับปี 2544 และ 2545 ตามลำดับ
|
|
การประเมินมูลค่าหุ้น
|
|
SCC
|
SCCC
|
TPIPL
|
JCC
|
ราคาปิด (บาท)
|
408.00
|
139.00
|
11.25
|
10.50
|
มูลค่ากิจการ (EV:
ล้าน US$) *
|
1,579
|
935
|
1,022
|
83
|
กำลังการผลิต
(ล้านตัน)
|
23.50
|
12.30
|
9.00
|
1.80
|
EBITDA (ล้าน US$) *
|
188.85
|
110.20
|
71.71
|
8.85
|
EV/TON
(เหรียญสหรัฐ/ตัน)
|
67.19
|
76.05
|
113.60
|
46.31
|
EV/EBITDA
|
8.36
|
8.49
|
14.26
|
9.42
|
คำแนะนำการลงทุน
|
ซื้อ
|
ซื้อ
|
ขาย
|
ขาย
|
* คิดเฉพาะในส่วนของปูนซีเมนต์สำหรับ SCC และ TPIPL
|
สำหรับคำแนะนำการลงทุนในกลุ่มปูนซีเมนต์ ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงสู่ระดับ Neutral (จาก Overweight) โดยยังคงให้คำแนะนำสำหรับ SCCC และ SCC
ไว้ที่
ซื้อ
เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีทีมผู้บริหารงานที่มีความสามารถ
และราคาปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่เหมาะสม(Undervalued) ที่ระดับ 153 บาท ของ SCCC และ 550 บาท ของ SCC อยู่ 9.2% และ 25.8% ส่วน JCC และ TPIPL นั้น CNS ยังคงแนะนำ ขาย แต่ให้จับตาดู TPIPL ถ้าในกรณีข้อตกลงเรื่องการเพิ่มทุนกับซีเม็กซ์หรือได้ข้อตกลงการร่วมทุนกับโฮลเดอร์แบงก์เป็นผลสำเร็จ
ในระยะต่อๆ ไป TPIPL คาดว่าจะมีฐานะทางการเงินปรับตัวดีขึ้น
|