บริษัท
บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) : BCP |
Consolidated Financial Summary |
ราคาปิด
(30/01/45) 5.65 บาท |
|||||||||
Year Dec. 31 |
NP (Btmn) |
EPS (Bt) |
PER (X) |
P/BV (X) |
EBITDA (Btmn) |
EBITDA Growth (%) |
EV/EBITDA (X) |
DPS (Bt) |
Yield (%) |
|
2542 |
(1,734) |
(3.32) |
#NA |
0.38 |
2,890 |
83.33 |
5.48 |
0.00 |
0.00 |
|
2543 |
(1,582) |
(3.03) |
#NA |
0.51 |
1,497 |
(48.19) |
12.64 |
0.00 |
0.00 |
|
2544 |
(2,995) |
(5.74) |
#NA |
1.22 |
(280) |
NM |
NM |
0.00 |
0.00 |
|
2545F* |
(469) |
(0.90) |
#NA |
1.51 |
1,988 |
NM |
10.80 |
0.00 |
0.00 |
|
2546F* |
174 |
0.33 |
16.98 |
1.39 |
2,464 |
23.97 |
8.64 |
0.00 |
0.00 |
|
ประเด็น
Ø
BCP รายงานผลขาดทุนสุทธิ 2,995 ล้านบาท ในปี 2544 ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
Ø
ค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับต่ำ
และการบันทึกต้นทุนน้ำมันดิบด้วยวิธี FIFO ส่งผลให้
BCP
มีอัตราขาดทุนขั้นต้น 0.6%
Ø
ปี 2545
คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น (ขาดทุนลดลง)
Ø
การร่วมมือทางธุรกิจกับไทยออยล์
โดยปรับเปลี่ยนน้ำมันเตาให้เป็นน้ำมันเบาประเภทอื่นที่มีมูลค่าสูงขึ้น
ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม
Ø
คำแนะนำ : ขาย
ความเห็นและคำแนะนำ
: BCP รายงานผลการดำเนินงานปี 2544 มีขาดทุนสุทธิ 2,995 ล้านบาท
(ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 5.74 บาท) ตกต่ำกว่าปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 1,582
ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก 1) รายได้ขายที่ปรับตัวลดลง 2)
ค่าการกลั่นที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ US$ 0.80/บาร์เรล
จากผลกระทบของความต้องการใช้ปิโตรเลียมที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ 3)
การบันทึกต้นทุนขายในส่วนของน้ำมันดิบด้วยวิธี FIFO (เข้าก่อนออกก่อน)
โดยมีอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังเท่ากับ 40 วัน ทำให้เกิด Lag Time
ในการบันทึกราคาต้นทุนต่อหน่วยของน้ำมันดิบ
และส่งผลให้ต้นทุนขายในทางบัญชีสูงกว่าความเป็นจริง (ในภาวะขาลงของราคาน้ำมันดิบ)
และ 4) ภาระดอกเบี้ยจ่ายยังอยู่ในระดับสูง ประมาณ 1,303
ล้านบาท จากโครงสร้างทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ผลการดำเนินงานปี 2544
หน่วย : ล้านบาท
P&L Statement |
2544 |
2543 |
% YoY |
Sales |
48,479 |
52,118 |
-7% |
Costs of sales |
(48,781) |
(50,710) |
-4% |
Gross profit |
(302) |
1,408 |
NM |
S&A expense |
(1,143) |
(1,162) |
-2% |
Interest expense |
(1,303) |
(1,261) |
3% |
Interest income |
26 |
21 |
28% |
Other income (expense) |
(197) |
(191) |
3% |
Forex gain (loss) |
(37) |
(413) |
-91% |
Tax |
(40) |
17 |
NM |
Net Profit (Net Loss) |
(2,995) |
(1,582) |
NM |
EPS |
(5.74) |
(3.03) |
NM |
Volume (mn. litre) |
4,961 |
5,370 |
|
Avg. Selling Price (Bt/litre) |
9.77 |
9.71 |
|
Gross Margin |
-0.6% |
2.7% |
|
Operating Margin |
-3.0% |
0.5% |
|
Net Margin (excl.
forex) |
-6.1% |
-2.2% |
|
Debt/equity ratio |
8.75 |
3.23 |
|
Interest coverage ratio |
(0.29) |
1.10 |
|
ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
7.6% YoY เหลือ 4,961
ล้านลิตร จากความต้องการใช้ปิโตรเลียมที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 9.77 บาท/ลิตร
ส่งผลให้รายได้ขายปี 2544 ลดลง 7% YoY เหลือ 48,479
ล้านบาท ส่วนของต้นทุนขายที่ปรับตัวลดลงในอัตราที่น้อยกว่ารายได้ขาย จากผลกระทบของการบันทึกต้นทุนน้ำมันดิบตามวิธี
FIFO และค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับต่ำ
ส่งผลให้ BCP
มีอัตราขาดทุนขั้นต้น 0.6% เทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 2.7%
นอกจากนี้ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงถึง 1,303
ล้านบาท ยังเป็นภาระซ้ำเติมให้บริษัทมีผลขาดทุนก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,958
ล้านบาท ในปี 2544
แนวโน้มผลการดำเนินงานปี
2545 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น (ขาดทุนลดลง) โดย คาดว่า BCP จะมีผลขาดทุนสุทธิ
469 ล้านบาท
เนื่องจากค่าการกลั่นและค่าการตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2544
จากการใช้กำลังกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง
นอกจากนี้ BCP ยังมีแผนที่จะลดต้นทุนการผลิต
โดยนำน้ำมันเตาผลิตภัณฑ์หลักที่กลั่นได้จากโรงกลั่นบางจาก
ไปเข้าขบวนการกลั่นที่โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นน้ำมันเบาประเภทอื่นอย่างน้ำมันเบนซินเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในปี 2545 อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินประโยชน์ที่ BCP จะได้รับในการเข้าร่วมมือทางธุรกิจกับไทยออยล์ได้อย่างชัดเจน
กำลังกลั่นในประเทศและภูมิภาคที่มีมากเกินความต้องการ คาดว่ายังเป็นปัจจัยกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของ
BCP โดยเฉพาะในส่วนของค่าการตลาดและค่าการกลั่น รวมทั้งแผนการร่วมมือทางธุรกิจกับโรงกลั่นไทยออยล์ที่ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ยังคงแนะนำขาย
โดยมีมูลค่าปัจจัยพื้นฐาน (NPV) เท่ากับ 5.1 บาท/หุ้น